การใช้งานแพลตฟอร์ม CRM อย่าง HubSpot เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายการขาย การตลาด และการบริการลูกค้า ความสามารถแบบครบวงจรของ HubSpot ช่วยให้ทีมทำงานไปในทิศทางเดียวกัน กระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ และให้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนการเติบโต
แต่หลายทีมมักมองข้ามสิ่งสำคัญ:
การตั้งค่าและเริ่มใช้งาน HubSpot เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
หากไม่มีแผนงานหลังการใช้งาน (Post-Launch) ที่ชัดเจน ธุรกิจอาจเจอปัญหา เช่น การใช้งานระบบต่ำ กระบวนการทำงานไม่สอดคล้องกัน และพลาดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงสุด (ROI)
ในบล็อกนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ:
HubSpot CRM คืออะไร และทำไมธุรกิจถึงเลือกใช้
HubSpot CRM คือแพลตฟอร์มบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าแบบครบวงจร (All-in-One) ที่ช่วยให้ธุรกิจสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างราบรื่น ติดตามลีดและดีลอย่างเป็นระบบ ทำการตลาดแบบอัตโนมัติ ลดงานซ้ำซ้อน และรวมข้อมูลวิเคราะห์เพื่อช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมธุรกิจถึงเลือก HubSpot:
- CRM อัจฉริยะสำหรับจัดการข้อมูลลูกค้า
- ระบบการตลาดอัตโนมัติ และ Lead Nurturing
- จัดการ Sales Pipeline และพยากรณ์ยอดขาย
- ระบบ Ticket และ Feedback Tools
- แดชบอร์ดและรายงานวิเคราะห์เชิงลึก
- เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันกว่า 1,500 รายการ และ API เปิดให้ใช้งาน
- อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้
จากรายงาน HubSpot Annual ROI Report 2024:
- ผู้ใช้งาน HubSpot สร้างโอกาสทางธุรกิจได้เพิ่มขึ้น 107%
- ปิดการขายได้เพิ่มขึ้น 35%
- อัตราการแก้ไขปัญหาผ่านตั๋วลูกค้าเพิ่มขึ้น 28%
อย่างไรก็ตาม การที่ทำให้ HubSpot สร้างผลลัพธ์ได้จริงไม่ใช่แค่การเปิดระบบใช้งาน HubSpot เท่านั้น ธุรกิจต้องวางกลยุทธ์การตั้งค่า ปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ และทำให้การใช้งานสอดคล้องกับกระบวนการและเป้าหมายของทีม

หากคุณยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาแพลตฟอร์ม CRM คู่มือผู้ซื้อ CRM ของเราจะอธิบายคุณสมบัติสำคัญและการเปรียบเทียบต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
สิ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน CRM ให้ประสบความสำเร็จ
หลายองค์กรเข้าใจว่าการใช้งาน HubSpot เสร็จสิ้นแล้ว เมื่อ:
- เพิ่มผู้ใช้เรียบร้อย
- สร้าง Pipeline แล้ว
- นำเข้าข้อมูลรายชื่อ (Contacts) แล้ว
- ตั้งค่า Automation เบื้องต้นแล้ว
ความจริงคือ… นั่นเป็นแค่ขั้นเริ่มต้นเท่านั้น
การทำให้ CRM ประสบความสำเร็จจริง ๆ ประกอบด้วย:
- การปรับปรุงและพัฒนา Workflow อย่างต่อเนื่อง
- การตั้งค่า Dashboard ให้สอดคล้องกับ KPI ของธุรกิจ
- การเสริมทักษะและฝึกอบรมการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
- การสนับสนุนด้านเทคนิคเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
- การเชื่อมโยงเครื่องมือให้สอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของธุรกิจ
หากขาดการสนับสนุนหลังการใช้งาน ธุรกิจจำนวนมากมักเผชิญปัญหาการใช้งานไม่เต็มที่ นำไปสู่ Adoption ต่ำ ใช้งานได้ไม่เต็มศักยภาพ และพลาดโอกาสเติบโตที่ควรจะได้
ข้อผิดพลาดที่ธุรกิจมักเจอหลังจากติดตั้ง CRM
- ฟีเจอร์ถูกใช้งานไม่เต็มที่:
เครื่องมือทรงพลังอย่างการให้คะแนนลีด (Lead Scoring) การติดตามวงจรลูกค้า (Lifecycle Tracking) และการวัดผลแคมเปญ (Campaign Attribution) มักถูกปล่อยทิ้งไว้ ไม่ได้รับการใช้งาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
- เวิร์กโฟลว์:ไม่มีประสิทธิภาพ:
ระบบอัตโนมัติที่ดูดีในแผนงาน อาจล้มเหลวเมื่อนำมาใช้จริง หากขาดการทดสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
- การใช้งานจากผู้ใช้ต่ำ:
หากขาดการอบรมและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้งานอาจรู้สึกว่า HubSpot ใช้ยาก หรือเลิกใช้งานไปเลย
- ไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจ:
หาก CRM ไม่ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับกระบวนการและเป้าหมายทางธุรกิจจริง ๆ เครื่องมือภายในก็จะกลายเป็นสิ่งที่รก ถูกใช้น้อย หรือใช้งานไม่ตรงจุด
- ปัญหาทางเทคนิค เมื่อไม่มีการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ:
ปัญหาเล็ก ๆ เช่น เวิร์กโฟลว์ทำงานผิดพลาด หรือการซิงค์ข้อมูลไม่ตรงกัน อาจบานปลายเป็นอุปสรรคใหญ่ได้ หากขาดผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือ
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการสร้าง ROI จาก CRM ในระยะยาว
เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนใน CRM ของคุณ ควรทำตามแนวปฏิบัติหลังการใช้งานดังนี้:
1. วางแผนให้ไกลกว่าวันเปิดใช้งาน
สร้างแผนงาน 30-60-90 วัน ที่ชัดเจน ครอบคลุมการประเมินผลการทำงาน การทดสอบเวิร์กโฟลว์ และการวิเคราะห์การใช้งาน
2. กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จตั้งแต่แรก
วาง KPI ให้ชัด เช่น อัตราการแปลง (Conversion Rate) มูลค่าเฉลี่ยของดีล หรืออัตราการมีส่วนร่วมของอีเมล เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตั้งค่า CRM และการรายงานผล
3. ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมทีม
เสริมศักยภาพทีมด้วยการจัดเทรนนิ่งอย่างสม่ำเสมอ และสร้างการแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจและกระตุ้นการใช้งาน
4. ปรับเวิร์กโฟลว์ตามข้อมูลจริง
ใช้เครื่องมือรายงานของ HubSpot เพื่อตรวจสอบจุดติดขัดและปรับปรุงระบบอัตโนมัติจากข้อมูลเชิงลึก
5. ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจาก HubSpot
การร่วมมือกับที่ปรึกษา CRM จะช่วยลดความเสี่ยง เร่งผลลัพธ์ให้เร็วขึ้น และทำให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
เริ่มต้น HubSpot CRM อย่างชาญฉลาด: ตั้งค่าโดยผู้เชี่ยวชาญ + สนับสนุนหลังใช้งาน
เพื่อช่วยธุรกิจหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อย เราจึงเสนอ HubSpot CRM 2-in-1 ครอบคลุมทั้งการตั้งค่าและการสนับสนุนเชิงกลยุทธ์หลังเปิดใช้งาน
สิ่งที่คุณจะได้รับ:
✔ ตั้งค่า HubSpot แบบมือโปร
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราจะปรับระบบให้ตรงกับเป้าหมายธุรกิจคุณ ตั้งแต่จัดการ Sales Pipeline ระบบ Automation นำเข้าข้อมูล ไปจนถึงสร้าง Custom Properties
✔ การดูแลหลังใช้งานฟรี 1 เดือน
เมื่อระบบพร้อมใช้งาน เราจะอยู่กับคุณเพื่อให้ทีมใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ:
- ปรับเวิร์กโฟลว์และ Automation
- ตั้งค่า Dashboard และรายงานให้ตรงเป้า
- ช่วยแก้ปัญหาและให้คำแนะนำแบบมืออาชีพ
- Q&A และคำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ ปรับตามธุรกิจคุณ
ในฐานะ HubSpot Platinum Partner เราช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตเร็วและชาญฉลาดขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน CRM, Automation และ Revenue Operations
📅 นัดปรึกษา HubSpot ฟรีวันนี้ แล้วเริ่มใช้งานได้ทันที
บทสรุป
การนำ HubSpot CRM มาใช้เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด แต่ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้จบแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ด้วยการตั้งค่าที่เหมาะสมควบคู่กับกลยุทธ์หลังเปิดใช้งาน HubSpot จะกลายเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโต อัตโนมัติ และสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ยอดเยี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง
อย่ามองว่าการตั้งค่าเป็นจุดสิ้นสุด ให้โฟกัสที่การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ลงทุนในการสนับสนุนระยะยาว และมอง CRM ของคุณเป็นระบบที่เติบโตและพัฒนาควบคู่ไปกับธุรกิจของคุณ